:: ผู้อำนวยการโรงเรียน ::
นายชัชชัย พุทธสุวรรณ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์
Graphical counter from SEP 2550
Oh no! Where's the
JavaScript ?
Your Web browser does not have JavaScript enabled or does not support JavaScript. Please
enable JavaScript on your Web browser to properly view this Web site,
or
upgrade to a Web browser that does support JavaScript;
Firefox ,
Safari ,
Opera ,
Chrome or a version of
Internet Explorer newer then version 6.
โครงการพยัคฆ์ทะยาน : TIIGRIHUPE
เป็นบทความของคุณ Theerapat Charoensuk ที่เขียนเมื่อ วันที่13 มิถุนายน เวลา 3:10 น. .. สนใจเรื่องราวของเขาไปที่ https://www.facebook.com/terasphere
----------------------------------------
โครงการพยัคฆ์ทะยาน : TIIGRIHUPE
แผนการที่เปลี่ยนรัฐบอลติกยากจนจากศตวรรษที่ 20 ให้กลายเป็นรัฐไซเบอร์พังค์ที่ร่ำรวยและพัฒนาแล้วแห่งศตวรรษที่ 21 ในชั่วคนเดียว
หลังจากม่านเหล็กล่มสลาย โซเวียตแตกเป็นเสี่ยงๆ ชาวเอสโตเนียหนีการเกณฑ์ทหารของกองทัพโซเวียต ก่อการปฏิวัติเสียงเพลงด้วยการจัดเทศกาลดนตรี ร่วมกันขับร้องเพลงชาติและเพลงปลุกใจภาษาเอสโตเนียนที่ถูกโซเวียตห้ามเป็นแสนๆ คน คล้องแขนกันเรียงหน้าชนรถถังและกองทหาร ปกป้องสถานีวิทยุที่ออกอากาศคำประกาศอิสรภาพ จนสามารถประกาศเอกราชได้ในปี 1989
ปี 1992 สินค้าออกของเอสโตเนียคือสินค้าเกษตรและประมง ส่งออกไปรัสเซียมากกว่า 90% เนื่องจากถูกปิดล้อมทางทะเลมานับหลายทศวรรษ เทคโนโลยีอยู่ในระดับต่ำ ประชาชนไม่มีโทรศัพท์ใช้ โทรทัศน์เป็นของหายาก ประชาชนอยู่ใต้เส้นความยากจนมากกว่า 70%
ปี 1996 โทมัส เฮนดริก ไอฟส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศขณะนั้น ซึ่งเคยเป็นอดีตเอกอัครรัฐทูตเอสโตเนียประจำสหรัฐอเมริกา ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของระบบคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต ที่โลกตะวันตกกำลังเริ่มเฟื่องฟู ว่าจะมีความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อไปในอนาคต จึงได้เสนอแผนการ TIIGRIHUPE "พยัคฆ์ทะยาน" ต่อ จาค อาวิคโซ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการในขณะนั้น
แผนการพยัคฆ์ทะยาน คือการริเริ่มเผยแพร่การเรียนการสอนวิชาคอมพิวเตอร์และเขียนโปรแกรมลงไปในโรงเรียนทุกแห่งของเอสโตเนียตั้งแต่ชั้นอนุบาล เริ่มในปีงบประมาณ 1997 โดยใช้คอมพิวเตอร์แบบ CP/M ระบบ 8 บิท ในการเรียนการสอนขั้นพื้นฐานเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย เนื่องจากมีโรงงานประกอบเป็นของเหลือจากสมัยโซเวียตอยู่แล้ว เอสโตเนียปฏิเสธการรับเซ้งต่อระบบโทรศัพท์มีสายของฟินแลนด์ แต่เริ่มต้นข้ามขั้นด้วยระบบอินเตอร์เน็ตไฟเบอร์ใยแก้วนำแสง และระบบไร้สาย เนื่องจากวิสัยทัศน์ของผู้บริหารที่มองว่า "ใช้ของเก่าก็ต้องเริ่มของเก่า ตามแข่งขันไม่ทัน เริ่มของใหม่ก็เริ่มที่จุดเริ่มเดียวกัน ย่อมสู้ได้"
คิดดูสิว่า เด็กที่เรียนรู้ด้านโปรแกรมมิ่งตั้งแต่ปี 1997 ในช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมา จะเกิดอะไรขึ้น?
เอสโตเนียก่อกำเนิดโปรแกรมเมอร์ชั้นยอด สตาร์ทอัพ และแอพพลิเคชั่นที่เข้าไปอยู่ในวงการคอมพิวเตอร์ โปรแกรมสนทนาและประชุมงานยอดนิยมอย่าง Skype เกิดด้วยฝีมือของชาวเอสโตเนียในปี 2003 - หลังจากโครงการพยัคฆ์ทะยานดำเนินการไปได้ 6 ปี - พริท คาซาเซลู ผู้ก่อตั้ง Skype เคยเป็นพนักงานในโรงงานคอมพิวเตอร์ 8 บิทที่ผลิตเพื่อใช้สอนในโรงเรียนของเอสโตเนีย การขาย Skype ให้แก่ e-bay ในปี 2005 ทำให้เงินกว่า 2.6 พันล้านเหรียญสหรัฐเข้าสู่ประเทศ และเมื่อ Microsoft ซื้อ Skype ไปในปี 2011 ด้วยราคา 8.5 พันล้านเหรียญ ยิ่งทำให้กระแสเงินหมุนเวียนมากขึ้น เพราะ 44% ของพนักงาน Skype นั้น ยังอาศัยอยู่ในกรุงทัลลินน์และเมืองทาร์ตูของเอสโตเนีย
ในเดือนเมษายนปี 2007 เอสโตเนียถูกโจมตีทางไซเบอร์ครั้งร้ายแรง ทั้งด้วยการ ยิง DDoS จนทำให้ระบบและเว็บไซต์ของรัฐ หนังสือพิมพ์ และบริษัทเอกชนใหญ่ๆ ล่มไป รวมถึงการสแปม ฟลัดโพสต์ข้อความเสื่อมเสียและคอมเมนต์ในหน้าข่าวต่างๆ ของเอสโตเนียรวมถึงพรรคปฏิรูปที่เป็นรัฐบาล ซึ่งต่อมาทางการได้จับกุมชาวเอสโตเนียเชื้อสายรัสเซียว่าเป็นผู้ลงมือทำ พร้อมกับสาวโยงไปถึงเซอร์เกย์ มาร์คอฟ สมาชิกสภาดูม่าของรัสเซียว่าอาจอยู่เบื้องหลังการโจมตีครั้งนั้น ซึ่งภายหลัง ประธานาธิบดีไอฟส์ได้จัดตั้งระบบศูนย์ป้องกันภัยไซเบอร์ร่วมกันของ NATO โดยมีชื่อเล่นว่า "พยัคฆ์พิทักษ์" Tiigrikaitse เนื่องจากโปรแกรมเมอร์ที่เข้าร่วมโครงการนี้ล้วนแล้วแต่เติบโตมาพร้อมกับโครงการพยัคฆ์ทะยานตั้งแต่วัยเด็กนั่นเอง
ปัจจุบัน เอสโตเนียกลายเป็นประเทศพัฒนาแล้วที่มีรายได้ต่อหัวและคุณภาพชีวิตระดับสูง GDP 15% ของเอสโตเนียมาจากสินค้าไฮเทค 66% มาจากภาคการบริการ คิดภาษีเงินได้ในอัตราเท่ากันหมดที่ 21% ไม่ว่าจะมีรายได้เท่าใด บริษัทธุรกิจไม่เสียภาษีในการทำธุรกิจออนไลน์ โดยจะเก็บเมื่อปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในฐานะภาษีเงินได้ GDP ต่อหัวอยู่ที่ 27,729 เหรียญสหรัฐ (มากกว่าไทย 5 เท่า) เป็นเพียงไม่กี่ประเทศในโลกที่ดุลบัญชีเป็นบวก และหนี้สาธารณะมีเพียงแค่ 8% ของ GDP เป็นประเทศเจ้าหนี้ของ IMF และยูโรโซน อินเตอร์เน็ตเร็วเป็นอันดับต้นๆ ของโลก เสรีภาพสื่อเป็นอันดับ 3 ของโลก และประชาชนเข้าถึงระบบอินเตอร์เน็ตมากที่สุดในยุโรป โดยมีรัฐบาลประชาธิปไตยที่เต็มไปด้วยคนวัยหนุ่มสาว นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ทาวี รีวาส อายุแค่ 36 ปี! (เกิด 1979) รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศอายุ 39 รัฐมนตรีกระทรวงการคลังอายุ 46 รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมอายุ 40 รัฐมนตรีกระทรวงส่งเสริมผู้ประกอบธุรกิจอายุ 35 ปี
"เอสโตเนียเป็นประเทศของสตาร์ทอัพ ไม่ใช่แค่จำนวน แต่เป็นด้วยจิตวิญญาณประชาชาติ" - เบน โฮโรวิตซ์ นักลงทุน Venture Capital ชื่อดัง กล่าวไว้
เวลาที่สร้างอนาคตได้ดีที่สุด คือยี่สิบปีที่แล้ว ถ้าทำไม่ได้ เวลาที่ดีรองลงมาคือตอนนี้!
No Comments have been Posted.
Please Login to Post a Comment.
<< March 2026 >>
Mo
Tu
We
Th
Fr
Sa
Su
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
No events.
แบบวัดการรับรู้ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายนอก(EIT2)