:: ผู้อำนวยการโรงเรียน ::
นายชัชชัย พุทธสุวรรณ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์
Graphical counter from SEP 2550
Oh no! Where's the
JavaScript ?
Your Web browser does not have JavaScript enabled or does not support JavaScript. Please
enable JavaScript on your Web browser to properly view this Web site,
or
upgrade to a Web browser that does support JavaScript;
Firefox ,
Safari ,
Opera ,
Chrome or a version of
Internet Explorer newer then version 6.
เครื่องเล่น MP3 ทำหูหนวกก่อนวัยอันควร
โดย ศิริพงษ์ วิทยวิโรจน์ siripong@kidtalentz.com
เมืองไทยกับเครื่องเล่นเพลงเอ็มพี 3 เป็นภาพคุ้นตามากๆ ขายดิบขายดีติดต่อกันมาหลายปี ไปไหนต่อไหนก็จะเห็นโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ๆ นิยมกัน ที่จริงมันก็ไม่ต่างปะไรกับวอล์กแมนที่โซนีคิดค้นขึ้นมา แต่นั่นมันอยู่ในเทป ต่อมากลายเป็นซีดี แล้วทุกวันนี้เป็นแค่ไฟล์ในเครื่องเล่นอันเล็กนิดเดียว แต่ความจุเพลงมากมายมหาศาลกว่ากันเยอะแยะ เห็นสายห้อยจากหูวัยรุ่นบ้านเราหรือไม่ว่าบ้านไหนก็ตาม แต่สันนิษฐานได้สองอย่าง ไม่โทรศัพท์ก็เพลงจากเครื่องเล่นเพลงดิจิตอลนี่แหละครับ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเล่นเอ็มพี 3 ทั่วๆ ไปหรือ ไอพ็อด หรือ แม้แต่โทรศัพท์มือถือที่ฟังเพลงได้
ในอังกฤษ เมื่อเร็วๆ นี้ สถาบันคนหูหนวกแห่งชาติ ออกแถลงคำเตือนเกี่ยวกับเครื่องเล่นเพลงดิจิตอลที่มีกับความสามารถในการได้ยิน ด้วยความเป็นห่วงว่าคนรุ่นใหม่ๆ นิยมใช้เครื่องเพลงพวกนี้กันมาก ในอังกฤษเองปีที่ผ่านมาขายไปได้แปดล้านเครื่อง ไม่ผิดหรอกครับ 8,000,000 เครื่อง
เป็นเรื่องปกติของคนที่พออายุมากขึ้นประสาทหูก็จะเสื่อมลง คนแก่ๆ ที่ฟังอะไรไม่ค่อยได้ยินมีให้เห็นอยู่มากมาย มันก็เสื่อมไปตามสังขาร แต่ถ้าฟังเครื่องเล่นเพลงดิจิตอลมากๆ เข้า อาการไม่ค่อยได้ยิน หรือจะเรียกว่าหูหนวกก่อนวัยอันควรก็ได้ จะเกิดขึ้น ซึ่งไม่ใช่เรื่องน่าพิสมัยใดๆ ทั้งสิ้น แค่เสื่อมไปตามสภาพก็ไม่น่ายินดีอยู่แล้ว
จากงานวิจัยของสถาบันคนหูหนวกแห่งชาติของอังกฤษพบว่า ผู้ใช้เครื่องเล่นเอ็มพี 3 ในเมืองไบรตัน,แมนเชสเตอร์ และเบอร์มิงแฮม 72 จาก 110 คน ฟังเครื่องเล่นเอ็มพี 3 ด้วยระดับเสียง 85 เดซิเบล ระดับเสียงที่พอกับเสียงนาฬิกาปลุกที่คนทั่วๆ ไปใช้โดยเฉลี่ย
อันตรายต่อประสาทหูน่ะสิครับ ทำให้มันเสื่อมก่อนวัย
มีรายงานขององค์การอนามัยโลก (WHO) บอกไว้ว่า การใช้หูฟังฟังเสียงระดับ 85 เดซิเบล หรือมากกว่านั้นครั้งละหนึ่งชั่วโมงหรือกว่าจะทำลายความสามารถในการได้ยินของคนลง
แล้วถ้าตะบี้ตะบันฟังกันอย่างที่เราเห็นๆ หรือเราบางคนที่กำลังอ่านก็เป็นนี้ จะเกิดอะไรขึ้น ตอบได้ว่าโอกาสหูหนวกมาเยือนอาจเร็วกว่าที่คิด ยังไม่ทันแก่ นอกจากใครพูดมาก็ไม่ค่อยได้ยินแล้ว ตัวเองพูดออกไปก็ตะเบ็งเสียงดังลั่นเหมือนตะโกน
ที่เขาเป็นห่วงเด็กวัยรุ่นก็เพราะจากงานสำรวจของสถาบันคนหูหนวกแห่งชาติอังกฤษพบอีกว่า เกือบครึ่งหนึ่งของวัยรุ่นทั้งหลายนั้นฟังเครื่องเล่นเอ็มพี 3 มากกว่าหนึ่งชั่วโมงต่อวัน และหนึ่งในสี่ฟังมากกว่า 21 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ก็ราวๆ 3 ชั่วโมงต่อวัน
การสำรวจนี้ไม่ได้บอกว่าแต่ละครั้งฟังนานต่อเนื่องเกินชั่วโมงหรือไม่ ถ้านานเกินก็น่าเป็นห่วง และถ้าดูจากพฤติกรรมที่เราพบเห็นก็น่าเป็นห่วงเช่นกัน เพราะวัยรุ่นทั้งหลายที่อาจรวมถึงวัยทำงานใหม่ๆ การเสียบหูฟังฟังเพลงกันทุกเมื่อ แม้ระหว่างเวลานั่งทำงานก็เห็นกันเป็นเรื่องปกติ
สรุปได้ว่า ถ้าชอบฟังเครื่องเล่นเอ็มพี 3 หรือฟังเสียงอะไรด้วยการเสียบหูฟังก็อย่าให้เสียงดังเกินไป และอย่าให้ต่อเนื่องนานเกินกว่าหนึ่งชั่วโมงในแต่ละครั้ง เพราะมันทำร้ายตัวเอง และเมื่อคุณหูหนวกหรือได้ยินไม่ค่อยชัด ก็จะก่อความรำคาญกับคนอื่นๆ เป็นอุปสรรคต่อการติดต่อสื่อสารระหว่างมนุษย์ด้วยกัน
ส่วนนักการเมืองที่หูหนวกต่อเสียงของประชาชน ...ทำอะไรไม่ได้ครับ ถ้าประชาชนไม่ลุกขึ้นมาจัดการเสียเอง
พอรู้ว่าจะเลือกตั้งกันแล้วแน่ๆ บางพรรคก็ไม่มีนโยบายอะไรที่สำคัญนอกจากประกาศชัดเจนว่าจะเข้ามาเป็นตัวแทนให้ใครบางคนเท่านั้นเอง แล้วสุดท้ายพวกของใครบางคนกับพวกของใครบางคนก็จะตีกัน โดยประชาชนตกเป็นเครื่องมืออีกเหมือนเคย
เลือกตั้งนั้นดีแน่ แต่ไม่มีตัวเลือกเหมือนเดิม นี่แหละประเทศไทย หรือว่าหูหนวกแล้วจะดีกับการเป็นคนไทยก็ไม่รู้ จะได้ฟังเครื่องเล่นเอ็มพี 3 ทั้งวันทั้งคืน
No Comments have been Posted.
Please Login to Post a Comment.
<< June 2026 >>
Mo
Tu
We
Th
Fr
Sa
Su
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
No events.
แบบวัดการรับรู้ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายนอก(EIT2)