เราคงต้องช่วยกันนำความถูกต้องชอบธรรมกลับคืนมาให้กับระบบการศึกษา

ช่วยกันปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ที่ดีงามให้กับลูกหลาน ในเบื้องต้นคือการไม่ละเมิดสิทธิอันชอบธรรมของบุคคลอื่น

การเมตตา ช่วยเหลือเอื้อเฟื้อกันเป็นเรื่องดีก็จริง แต่ใช้ได้กับเรื่องบางเรื่อง แต่กับอีกหลายๆเรื่องใช้แล้วไม่ได้เกิดผลดีแก่สังคมโดยรวมก็อย่าได้กระทำเลย

ที่กล่าวถึงนี้เรื่องหนึ่งคือเรื่องการฝากเด็ก ... การคัดเลือกได้ผ่านไปตามกติกา เรื่องยุติแล้ว... จึงขอให้ทุกท่านที่ยังเดือดร้อนเรื่องลูกหลานไม่มีที่เรียนได้ติดต่อหน่วยงานที่จะช่วยเหลือดูแลท่านได้คือสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ฉะเชิงเทรา เขต 1 ช่วยดำเนินการจัดสถานที่เรียนที่ยังสามารถรับบุตรหลานท่านได้

ขอได้โปรดเข้าใจว่า ขณะนี้โรงเรียนเบญจมฯมีความจำเป็นจะต้องพัฒนาคุณภาพการศึกษาของลูกหลานท่านที่มีสิทธิได้เข้าเรียนตามประกาศ ตามนโยบายการศึกษาชาติ.... ถ้ามีการเพิ่มจำนวนนักเรียนเข้ามาโดยประการใดก็ตาม คณะครูขอแจ้งให้ทราบว่าจะไม่มีความสบายใจในการปฏิบัติหน้าที่เลย เพราะในห้วงเวลาที่ผ่านมาพวกเราได้ทำงานหนักเหลือกำลังมากเกินไปแล้วที่ต้องแบกรับภาระจำนวนนักเรียนที่มากเกินพิกัด

และขอให้ผู้ปกครองที่ได้สิทธิ์แล้วช่วยรักษาสิทธิ์ให้ลูกหลานท่านด้วยโดยอย่าให้ผู้ใดละเมิดสิทธิ์แย่งพื้นที่ของลูกหลานท่านที่ควรจะอยู่จะเรียนอย่างมีความสุขไปอย่างง่ายๆ

และในฐานะครูที่ทำหน้าที่อยู่ในเบญจมฯแห่งนี้ ขอปฏิเสธระบบฝาก ทั้งนี้เพื่อความเป็นธรรมของทุกคน และเพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีของลูกหลานบ้านเราตลอดไป

หลายท่านเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องจำกัดจำนวนนักเรียนในแต่ละห้องเรียนที่จะเข้าเรียนในปีการศึกษา 2551 นี้ ซึ่งต้องขอบคุณเป็นอย่างสูง

แต่มีอีกจำนวนหนึ่งที่ยังไม่เข้าใจ และพยายามจะไม่เข้าใจใดๆทั้งสิ้น เพียงเพื่อจะให้ลูกหลานได้เข้ามานั่งเรียนในโรงเรียนแห่งนี้

เป็นเรื่องที่ทำความเข้าใจกันมาโดยตลอดว่า โรงเรียนมีกติกาว่าจะต้องดำเนินการตามขั้นตอน 1-2-3 ดังที่ทราบ

พวกเราคณะครูโรงเรียนเบญจมฯได้เคยบอกกับท่านไว้แล้วว่า การที่จะให้โรงเรียนมีความสามารถดูแลลูกหลานของท่าได้ทั่วถึง และมีประสิทธิภาพนั้น เรื่องหนึ่งที่จะต้องทำให้ได้คือการจำกัดจำนวนนักเรียนให้อยู่ในจำนวนไม่เกินห้องละ 45 คน หรือน้อยกว่า เพื่อสร้างมาตรฐานความรู้ รวมถึงการดูแลด้านพฤติกรรมของนักเรียนด้วย

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาโรงเรียนของเราได้แบกรับภาระงานที่หนักหนาสาหัสจากจำนวนเด็กที่ได้ตามกติกา และได้มาจากการฝาก มารวมกันในห้องเรียนแคบๆมากมายถึงห้องละ 50 กว่า ถึง 60 กว่าคน เป็นเรื่องที่ครูแต่ละคนต้องหวานอมขมกลืนยอมรับภาระงานมาโดยตลอด ทั้งๆที่ใจครูแต่ละคนนั้นไม่มีความสบายเอาเสียเลย

ในขณะที่ผู้ปกครองแต่ละคนต่างมุ่งหวังอยากให้ลูกเรียนหนังสือ และในขณะเดียวกันผู้ปกครองกลับลืมไปว่าที่ๆลูกจะนั่งเรียนนั้นแทบจะต้องนั่งตักกันเรียน ไม่ได้มีความสะดวกสบายเอาเสียเลย

มีผู้ปกครองหลายท่านแสดงความเห็นว่าแล้วทำไมโรงเรียนไม่ขยายห้องให้มากขึ้น

เรื่องนี้ท่านต้องเข้าใจว่าโรงเรียนใช่จะสบายใจที่มีคนอยากเข้าเรียนแล้วไม่ได้เรียนเพราะโรงเรียนไม่มีที่นั่งให้ การขยายห้องออกไปนั้นจะต้องมีความพร้อมทั้งสถานที่และบุคลากร แต่ที่เห็น โรงเรียนมีจำนวนห้องเท่านี้ คือ ม.ต้น 30 ห้องเรียน ม.ปลาย 48 ห้องเรียน รวมแล้ว 78 ห้องเรียน ห้องเท่านี้ในขณะนี้โรงเรียนยังแทบจะหาห้องให้นักเรียนได้เรียนไม่พอเลย

ผู้ปกครองท่านที่ยังไม่เข้าใจ และพยายามจะหาวิธีการให้ลูกหลานได้เข้ามานั่งเรียนให้ได้ โปรดทบทวนด้วยครับ ท่านต้องการให้ลูกหลานมาเรียนที่นี่พวกเราเข้าใจ แต่เมื่อโรงเรียนรับได้เท่านี้ก็จนใจที่ช่วย เพราะการช่วยเหลือให้ใครก็ตามเข้ามานั่งเรียนเพิ่มขึ้นนั้น มันคือปัญหาที่จะต้องถกเถียงไม่รู้จบ และจะเกิดกรณีฟ้องร้องกันตามมาแน่นอน

และขอความกรุณาผู้ใหญ่ในบ้านเมืองทั้งส่วนจังหวัด และส่วนกลาง ช่วยอธิบายให้ใครก็ตามที่ไปฝากท่านให้รู้ว่าการฝากเด็กเข้าเรียนนั้นไม่ใช่เรื่องที่ควรกระทำ เพราะเป็นเรื่องของการละเมิดสิทธิของผู้อื่น เป็นเรื่องของระบบคุณธรรม และยุติธรรม ที่จะต้องดำรง ถ้าผู้ใหญ่ไม่ให้ความเป็นธรรมกับเด็กๆแล้ว อะไรจะเกิดขึ้น

จึงควรช่วยเหลือกันในเรื่องอื่นๆที่ควรจะช่วยได้เถอะ... สำหรับในเรื่องนี้พวกเราชาวเบญจมฯขอเอาไว้ เพื่อเป็นการสร้างมาตรฐานให้กับโรงเรียนมัธยมทั้งหลายทั่วประเทศได้ใช้เป็นแนวทาง และร่วมกันสร้างเยาวชนที่เป็นทรัพยากรมนุษย์ของประเทศให้มีคุณภาพต่อไป

หากจะมีการกระทำใดๆให้เกิดปัญหาในเรื่องการเพิ่มจำนวนนักเรียนขึ้นมาจนเกินกว่าที่ประกาศ พวกเราจะไม่ขอรับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น

เป็นเรื่องที่น่ายินดี ที่จะทำให้เกิดมาตรฐานในการรับนักเรียนเข้าเรียนในปีต่อๆไป เมื่อที่ประชุมคณะกรรมการรับนักเรียนของเบญจมฯ ได้ประชุมครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2551เวลา 9.00 น. มีนายบุญส่ง ชิตตระกูล เป็นประธาน มีมติยืนยันอีกครั้งว่าไม่รับฝากเด็กทุกกรณี ยืนยันรับตามจำนวนที่ประกาศไปแล้วเท่านั้นคือห้องเรียนละไม่เกิน 45 คน ทั้งนี้ที่ประชุมเห็นร่วมกันว่าเพื่อเป็นการตัดปัญหาผลกระทบที่จะตามมาทุกกรณี

และเป็นการสร้างมาตรฐานให้ชาวแปดริ้วทราบว่าจากนี้ไป ระบบฝากจะไม่มี ความเท่าเทียมความยุติธรรมในการเข้าเรียนจะมีมากขึ้น อีกทั้งน่าจะเป็นการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของนักเรียนในจังหวัดฉะเชิงเทราโดยรวมด้วย

โอกาสที่นักเรียนที่มีความประสงค์จะเข้าเรียนในเบญจมฯจริงๆก็มีมากขึ้น เมื่อเข้าเรียนในระดับ ม.ต้นไม่ได้ ก็อาจจะมีโอกาสเข้าเรียนในระดับ ม.ปลาย ถ้านักเรียนคนนั้นมีความตั้งใจจริง

โปรดอย่าได้พยายามให้เราต้องทำผิดกติกาซ้ำซากในเรื่องการรับนักเรียนเลยครับ... โปรดให้โรงเรียนได้สร้างมาตรฐานทางการศึกษาเพื่อคนแปดริ้วเถิดครับ

โรงเรียนที่มีนักเรียนในชั้นเรียนพอเหมาะจะทำให้เกิดคุณภาพเรื่องการเรียนการสอน รวมถึงการดูแลช่วยเหลือนักเรียนได้อย่างทั่วถึง

เราทำลายบรรยากาศการเรียนรู้ของเด็กๆของเบญจมฯมานานนับทศวรรษแล้ว จากนี้ไปโปรดมาช่วยกันดูแลเรื่องการศึกษาของบุตรหลานของท่านเถิดครับ

ข้อมูลที่แว่วมาจากแหล่งข่าวบอกว่าอาจจะมีการปรับเปลี่ยนฝ่ายบริหาร เนื่องมาจากการไม่สามารถตอบสนองความต้องการของใครบางคนที่ต้องการฝากเด็กเข้าเรียนในโรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์ โดยเฉพาะนักเรียนชั้น ม.1 .. ขอบอกว่าฝ่ายบริหารไม่สามารถตอบสนองความต้องการของใครบางคนได้นั้นเป็นเพราะมติคณะกรรมการรับนักเรียนปี 2551 ยืนยันในหลักการไม่รับพิจารณาผู้ใดนอกเหนือไปจากรายชื่อนักเรียนที่ประกาศไปแล้ว

ทั้งนี้ทั้งนั้นเป็นเพราะจะเกิดความยุ่งยากในการพิจารณา เนื่องจากมีผู้ต้องการเข้ามานั่งเรียนในโรงเรียนเบญจมฯเป็นจำนวนมาก และที่สำคัญที่สุดเป็นการละเมิดสิทธิของผู้อื่นทั้งที่ไม่ได้ และที่มีที่นั่งในการได้สิทธิเข้าเรียนแล้ว

ที่ละเมิดสิทธิของผู้อื่นที่ลูกหลานไม่ได้รับการคัดเลือก หมายถึงนักเรียนผู้ถูกละเมิดสิทธินั้นอาจจะมีผลการสอบที่ได้มากว่าคนที่ฝาก จะเกิดความไม่เป็นธรรมอย่างยิ่ง และถือเป็นการสอนในเรื่องที่ผิดให้กับลูกหลานจดจำไปจนวันตายแม้เหมือนจะเป็นเรื่องเล็กๆก็ตาม

ที่ละเมิดสิทธิของนักเรียนที่ได้รับคัดเลือกแล้ว หมายความว่า พวกเขาควรจะได้นั่งเรียนในห้องเรียนที่มีนักเรียนจำนวนไม่มากเกินไปตามที่ประกาศไว้แล้ว กลับจะต้องมาถูกนักเรียนที่รับเข้ามาโดยการฝากมาแย่งพื้นที่ในห้องให้เกิดความอึดอัด เป็นการทำลายบรรยากาศการเรียนการสอนที่ไม่เป็นผลดีต่อทั้งนักเรียนและทั้งครูผู้สอนอย่างรุนแรง ตัวอย่างมีให้เห็นอยู่แล้วจากผลพวงของการฝากเมื่อปี 2549 คือนักเรียนที่ขึ้นมาเรียนในระดับชั้น ม.3 ในปีนี้ที่มีจำนวนนักเรียนในห้องๆละมากกว่า 65 คน ยกเว้นห้องเรียนพิเศษ

ดังนั้นจึงขอยืนยันอีกครั้งว่า ถ้าจะต้องถือว่าการไม่ตอบสนองการรับฝากของใครบางคนจนต้องมีการปรับเปลี่ยนโยกย้าย พวกเราครูเบญจมฯจะไม่เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง เพราะหลักการและเหตุผลการไม่รับพิจารณานักเรียนนอกเหนือบัญชีนั้นมาจากคณะกรรมการรับนักเรียนปี 2551รวมถึงคณะกรรมการบริหารโรงเรียนด้วย แม้จะเปลี่ยนผู้บริหารเข้ามาแทนที่ ก็จะไม่สามารถเปลี่ยนหลักการที่ถูกต้องนี้ลงได้

ถ้าต้องการเห็นพัฒนาการด้านการศึกษาของฉะเชิงเทราเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น จนสามารถแข่งขันกับจังหวัดอื่นได้อย่างไม่อายใครแล้ว ขอความกรุณาอย่าได้แทรกแซงเรื่องการรับนักเรียนเลยครับ

สอบถามลูกศิษย์ที่ไปเรียนในต่างแดน เช่นเบลเยี่ยม ว่าจำนวนนักเรียนในชั้นเรียนมัธยมนั้นมีเท่าไร ได้รับคำตอบว่า 25-28 เพียงเท่านี้เด็ก ๆ ที่โน่นก็บอกว่ามากเกินไปแล้ว เพราะที่โน่นห้องเรียนที่หวังผลในเรื่องการเรียนจริง ๆ นั้นเพียงห้องละ 13-16 คน... ถึงว่าเถอะได้คำตอบแล้วละครัวว่ามาตรฐานของเด็กจะแตกต่างกันเท่าไร

ยังคุยล้อกันเล่นว่า 25-28 ที่ว่ามากน่ะ มันจิ๊บๆเมื่อเทียบกับห้องเรียนของเบญจมฯที่มี 45 บางห้องมากถึง 67 คน ถ้าเด็กที่โน่นมาเรียนที่นี่คงลมใส่แน่