:: ผู้อำนวยการโรงเรียน ::

นายชัชชัย พุทธสุวรรณ์
ผู้อำนวยการโรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์
About BRR
 ภูมิหลัง
 ผู้บริหารโรงเรียน
 เป้าพัฒนาโรงเรียน
 อาณาเขตของเบญจมฯ
 แผนที่ที่ตั้งโรงเรียน
 ทำเนียบผู้บริหาร
 ทำเนียบครู
 กรรมการสถานศึกษา
 ทำเนียบประธานนักเรียน
 สถานที่
 เบญจมฯศูนย์บางเตย
 ข้อมูลการติดต่อ
Graphical counter
from SEP 2550
Truehits stat
Counter Map
Locations of visitors to this page
นโยบายรับนักเรียนเข้าเรียน ม.1 และ ม.4 ปีการศึกษา 2554
Newsมีข่าวเรื่องการกำหนดนโยบายรับนักเรียนเข้าเรียน ม.1 และ ม.4 ของกระทรวงศึกษาธิการมาฝากให้ทุกคนทราบ โดยเฉพาะนักเรียนที่กำลังเรียนอยู่ชั้น ม.3 ของเบญจมฯ ว่าในปีนี้มีนโยบายค่อนข้างชัดเจนจากนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ว่า จะไม่มีนโยบายเลื่อนชั้นเรียนของนักเรียน ม.3 ในโรงเรียนเดิมขึ้นเรียน ม.4 ทุกคน โดยเฉพาะนักเรียนที่กำลังเรียนอยู่ในโรงเรียนยอดนิยมทั่วประเทศ ซึ่งอาจจะต้องมีการสอบแข่งขันกับเพื่อนต่างโรงเรียนเพื่อให้ได้สิทธิมีที่นั่งเรียน ข่าวนี้อาจจะกระตุ้นนักเรียน ม.3 ของเบญจมฯหลายๆคนให้กลับมาสนใจการเรียนของตนเองมากขึ้น ไม่อย่างนั้นก็คงจะต้องไปเรียนโรงเรียนอื่นที่ยังมีที่นั่งให้เรียน



ส่วนนักเรียน ม.3 ที่เรียนโรงเรียนอื่นๆคงถือเป็นข่าวดีที่หลายๆคนอยากจะเข้าเรียนที่เบญจมฯ จะได้อาศัยความสามารถที่ตนเองมีมาแข่งขันเพื่อให้มีที่นั่งเรียน .. ก็ถือว่ายุติธรรมดี

สำหรับความชัดเจนในเรื่องข้อกำหนดต่างๆนั้น ล่าสุดจากข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์มติชนออนไลน์ ฉบับวันที่ 22 ธันวาคม 2553 มีว่า รมต.ศธ. ประกาศต่อที่ประชุมสัมมนาเรื่อง "การรับนักเรียน ปีการศึกษา 2554Ž ที่ห้องคอนเวนชั่น โรงแรมรามาการ์เดนส์ กรุงเทพฯ ท่ามกลางนักเรียน ผู้ปกครอง และผู้บริหารสถานศึกษาประมาณ 500 คนเข้าร่วม ว่า อยากเห็นปีการศึกษา 2554 เป็นปีแห่งคุณภาพของสถานศึกษา คุณภาพของนักเรียน นักเรียนสามารถเรียนตามความสามารถของตัวเอง ไม่ใช่ความสามารถด้านอื่น หรือของผู้ปกครอง และอยากให้การรับนักเรียนมีการบูรณาการระหว่างสำนักงานคณะกรรมการการ อาชีวศึกษา สถานศึกษาเอกชน และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) โดยต้องการเห็นเด็กไปเรียนสายอาชีวะมากขึ้น

สำหรับข่าวโดยละเอียดนั้นสามารถคลิกเข้าไปอ่านรายละเอียดได้จากลิ้งค์นี้ครับ

CLICK Link
ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี ๔๐๔/๒๕๕๓ นโยบายการรับนักเรียน ปีการศึกษา ๒๕๕๔
ผู้บริหารร.ร.หนุนนโยบายรับ ม.1/ม.4 รอบเดียว ไม่หนักใจเรื่อง"เด็กฝาก" แต่ขอโควต้าผู้มีอุปการคุณ
Comments
#1 | narong on November 26 2010 01:22:09
ก็คงยืนยันแน่ชัดสำหรับการรับนักเรียนของเบญจมฯในปี 2554 ยังคงหลักการเดิมที่ยืนหยัดมาแล้ว 4 ปี คือการไม่รับฝาก... เพราะคำว่าเด็กฝากเป็นคำที่คิดครั้งไรมีแต่เสียดแทงใจของคนที่สมประโยชน์ และคนที่เสียประโยชน์

และเพราะคำว่าเด็กฝากนี้เองที่ทำให้องค์กรต่างๆเสื่อมศรัทธาความน่าเชื่อถือ เมื่อคนในองค์กรนั้นดำเนินการเพื่อประโยชน์ของพวกตนเองโดยไม่คำนึงถึงความรู้สึกนึกคิดประชาชนอื่นๆ

ดังนั้นแนวทางที่เบญจมฯยืนหยัดทำมาตลอด 4 ปี จึงเป็นแนวทางที่ถูกต้อง เป็นธรรมกับทุกฝ่าย เรียกว่าเป็นการยุติการโต้แย้งที่จะเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอนจากระบบฝากเด็ก

ขอบคุณทุกฝ่ายที่ช่วยกันยืนหยัดอยู่กับอุดมการณ์นี้ครับ ถือว่าเป็นการช่วยให้เบญจมฯมีความเจริญอย่างยั่งยืนในด้านหนึ่ง
#2 | narong on November 26 2010 01:27:42
ขอเพิ่มเติม..

เรื่องที่โรงเรียนเบญจมฯไม่มีระบบฝากเด็กเข้าเรียน ถือว่าเป็นการสอนให้เด็กๆรู้ว่าการใช้ความสามารถของตนเองเพื่อให้ได้สิทธิ์ในการเข้ามาเรียนนั้นเป็นอย่างไร น่าภูมิใจมากน้อยเพียงไร... พ่อแม่เป็นเพียงตัวช่วยประคับประคองเท่านั้นครับ
#3 | narong on November 29 2010 23:20:22
สพฐ. ขานรับนโยบาย รมว.ศึกษาธิการ รับนักเรียนชัดเจนและเป็นรูปธรรม ไม่มีก๊อกสอง-งดโควตาผู้อุปถัมภ์ ทำแผนกระจายนักเรียนไปทุกพื้นที่...

ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยความคืบหน้านโยบายการรับนักเรียนชั้น ม.1 และ ม.4 ของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ปีการศึกษา 2554 ว่า ปีนี้นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ มีนโยบายรับนักเรียนชัดเจนและเป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยเฉพาะการให้ความสำคัญในเรื่องคุณภาพการจัดการเรียนการสอน เพราะคงไม่สามารถจัดการเรียนการสอนให้มีคุณภาพได้ หากชั้นเรียนใหญ่เกินไป ดังนั้น จึงต้องกำหนดไว้ว่าเริ่มต้นจะต้องมีนักเรียนไม่เกินห้องละ 40 คน และสูงสุดจะควบคุมไม่ให้เกินห้องละ 50 คน ซึ่ง สพฐ.ต้องแจ้งให้โรงเรียนยอดนิยมเข้าใจและเชื่อว่าทุกโรงเรียนยินดีปฏิบัติ ตาม

เลขาธิการ กพฐ.กล่าวอีกว่า จากนี้ สพฐ.ต้องจัดทำแผนการรับนักเรียนให้มีความชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะการกระจายนักเรียนไปยังโรงเรียนดีมีคุณภาพ ซึ่งเป็นนโยบายของ รมว.ศึกษาธิการ ที่ต้องการให้โรงเรียนดีมีคุณภาพกระจายอยู่ทุกพื้นที่ สำหรับเงื่อนไขพิเศษของโรงเรียนและผู้บริจาคที่ดินก่อตั้งโรงเรียน ไม่ว่าจะเป็นวัดหรือการรถไฟ ก็ยังคงเดิม แต่ต้องกำหนดสัดส่วนให้ ชัดเจน ส่วนผู้อุปถัมภ์หรือบริจาคเงินให้กับโรงเรียนจะไม่มีโควตาในส่วนนี้ อย่างไรก็ตาม หากนโยบายการรับนักเรียนมีความชัดเจนแล้ว ผู้ปฏิบัติจะสบายใจ คงไม่มีก๊อก 2-3 มาที่ สพฐ. และ สพฐ.จะพยายามรับนักเรียนให้จบเพียงรอบเดียว.

ไทยรัฐออนไลน์
#4 | narong on November 30 2010 04:47:26
สำหรับเรื่องการรับนักเรียนเข้าเรียน ม.1 และ ม.4 ผมพยายามรณรงค์ และทำความเข้าใจให้ผู้ปกครองในแปดริ้วทราบมาโดยตลอดผ่านทั้งสื่อเว็บไซต์ของโรงเรียน และบล็อก OK Nation เพื่อสร้างบรรทัดฐานของการรับนักเรียนไม่เกินห้องเรียนละ 45 คน และไม่มีการรับฝาก... ทุกคนต้องผ่านเข้ามาเรียนตามกฏเกณฑ์ เพื่อเป็นการปลูกฝังความคิดที่เป็นค่านิยมที่ถูกต้องให้นักเรียนว่า ความยุติธรรมในสังคมเท่านั้นที่จะทำให้สังคมไทยอยู่รอดไม่แตกแยก

ข้อเขียนเพื่อเตือนความทรงจำหนึงเมื่อปี 2550 ยังอยู่ที่ OK Nation http://www.oknati...09/entry-3 ท่านสามารถคลิกไปอ่านได้ว่าโรงเรียนเบญจมฯของเราได้เดินเข้าสู่ลู่ของความถูกต้องมาแล้ว 4 ปี เต็ม จนมีคำกล่าวว่าคนแปดริ้วรู้แล้วว่าโรงเรียนเบญจมฯไม่รับเด็กฝาก มีแต่ที่อื่นเท่านั้นที่ยังไม่รู้จึงมีการบอกฝากมาเป็นประจำทุกปี ซึ่งโรงเรียนโดยผู้บริหารก็ไม่ได้นำมาพิจารณาทุกปีเหมือนกัน
#5 | narong on December 03 2010 13:01:54
ข่าวจากหน้าการศึกษา หนังสือพิมพ์ไทยรัฐออนไลน์

"ชิน วรณ์" ยืนยัน ร.ร.รับเด็กมัธยมได่้ไม่เกินห้องละ 50 คน ห้ามเปิดรอบ 2 มีเด็กฝาก-เรียกเก็บเงิน โดยเด็กที่สอบไม่ได้ให้ไป ร.ร.ที่เขตการศึกษาจัดให้ และเปิดช่อง ร.ร.ระดมทรัพยากร ย้ำห้ามกระทบเด็กยากจน-ด้อยโอกาส...


นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับผู้แทนผู้บริหารสถานศึกษาที่มีอัตราการแข่ง ขันสูงทั่วประเทศ จำนวน 21 โรง เพื่อพิจารณาหลักเกณฑ์และวิธีการรับนักเรียน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ปีการศึกษา 2554 ว่า ที่ประชุมมีข้อสรุปว่า ให้สถานศึกษาที่มีอัตราการแข่งขันสูงกลับไปปรับแผนการรับนักเรียนชั้น ม.1 และ ม.4 ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับบริบทของสถานศึกษา โดยจำนวนนักเรียนต่อห้องให้ขยายเพิ่มได้ห้องละไม่เกิน 10 คน โดยกำหนดไว้ดังนี้ ก่อนประถมศึกษา 30 คน เพิ่มได้ไม่เกิน 40 คน ประถมศึกษา 40 คน เพิ่มได้ไม่เกิน 50 คน และมัธยมศึกษา 40 คน เพิ่มได้ไม่เกิน 50 คน โดยให้สถานศึกษากำหนดสัดส่วนและแผนการรับนักเรียนให้ชัดเจน และเสนอต่อสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเพื่อขอความเห็นชอบจาก สพฐ. เพื่อประกาศให้สังคมทราบต่อไป ทั้งนี้ ให้รับนักเรียน เพียงรอบเดียวตามจำนวนที่ประกาศไว้ จะไม่ให้ขยายหรือรับเพิ่มรอบ 2 อย่างเด็ดขาด ส่วนเด็กที่สอบไม่ได้ ให้กลับไปเรียนโรงเรียนที่ทางเขตพื้นที่การศึกษาจัดไว้ นอกจากนี้ห้ามไม่ให้มีเด็กฝากและการเรียกเก็บเงิน โดยเป็นเงื่อนไขแลกกับการรับนักเรียนเข้าเรียน แต่เปิดโอกาสให้โรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูงสามารถระดมทรัพยากรได้ โดยให้ดำเนินการด้วยความสมัครใจ โปร่งใสและเป็นไปตามหลักเกณฑ์ ประกาศของกระทรวงศึกษาธิการ แต่ต้องไม่ให้นักเรียนที่ยากจนและด้อยโอกาสเดือดร้อน

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวอีกว่า สำหรับการรับนักเรียนชั้น ม.4 ให้รับเด็กที่จบ ม.3 เดิมที่มีศักยภาพ และเปิดรับนักเรียนจากโรงเรียนอื่นในสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 20 โดยใช้วิธีสอบคัดเลือกจากแบบทดสอบวัดความสามารถทางวิชาการของโรงเรียน หรือผลคะแนน แบบทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน (โอเน็ต) และให้คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษาจัดหาที่เรียน ให้เด็กที่จะเข้าเรียนชั้น ม.4 ทุกคนตามความเหมาะสม โดยวางแผนการรับนักเรียนร่วมกับโรงเรียนทุกสังกัด ทั้งนี้ ให้ สพฐ.ไปปรับปรุงร่างประกาศการรับนักเรียน ปี 2554 ให้เป็นไปตามนโยบายดังกล่าว และนำเข้าที่ประชุมองค์กรหลักเพื่อให้ความเห็นชอบต่อไป.

ไทยรัฐออนไลน์
#6 | narong on December 22 2010 22:20:09
ข่าวจากหนังสือพิมพ์มติชนออนไลน์ ฉบับวันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2553 เวลา 22:59:39 น

รมว.ศธ.ลั่นห้ามสมาคมผู้ปกครองนั่งในห้องรับน.ร. กัน"เด็กฝาก" เผยนโยบายปี54 เปิดรอบเดียว

เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวในการประชุมสัมมนาเรื่อง "การรับนักเรียน ปีการศึกษา 2554Ž ที่ห้องคอนเวนชั่น โรงแรมรามาการ์เดนส์ กรุงเทพฯ ท่ามกลางนักเรียน ผู้ปกครอง และผู้บริหารสถานศึกษาประมาณ 500 คนเข้าร่วม ว่า อยากเห็นปีการศึกษา 2554 เป็นปีแห่งคุณภาพของสถานศึกษา คุณภาพของนักเรียน นักเรียนสามารถเรียนตามความสามารถของตัวเอง ไม่ใช่ความสามารถด้านอื่น หรือของผู้ปกครอง และอยากให้การรับนักเรียนมีการบูรณาการระหว่างสำนักงานคณะกรรมการการ อาชีวศึกษา สถานศึกษาเอกชน และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) โดยต้องการเห็นเด็กไปเรียนสายอาชีวะมากขึ้น


นายชินวรณ์ กล่าวต่อ นโยบายการรับนักเรียนในปีการศึกษา 2554 นั้น ได้เน้นใน 5 ด้าน เช่น ให้เปิดรับนักเรียนเพียงรอบเดียว โดยโรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูง ต้องทำแผนการรับนักเรียนอย่างละเอียดว่าจะรับกี่คน และต้องรับตามนั้น ซึ่งจะให้มีคณะกรรมการอิสระไปตรวจสอบการรับนักเรียนของโรงเรียนเหล่านี้ว่า เป็นไปตามที่ประกาศรับหรือไม่, ให้นักเรียนระบุในใบสมัครสอบเข้าเรียนใน 4 โรงเรียน หากไม่ได้ต้องไปเรียนยังโรงเรียนเอกชน หรือสถานศึกษาอาชีวะ, กระบวนการรับนักเรียนจะมีคณะกรรมการติดตามตรวจสอบ ต่างจากปีที่ผ่านมาที่จะตั้งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และผู้ตรวจราชการ ศธ.ไปตรวจสอบ ทำให้เมื่อถึงเวลาเปิดเรียน บางโรงเรียนมีนักเรียน 50-70 คนต่อห้อง ซึ่งจะติดตามกับองค์กรที่รับผิดชอบโดยตรง ศธ. ภาคเอกชน และหน่วยงานที่ทำหน้าที่ตรวจสอบ


"สำหรับสมาคมผู้ปกครองนักเรียน คณะกรรมการสถานศึกษา สมาคมศิษย์เก่า และสมาคมอื่นๆ จะต้องไม่เข้ามาเกี่ยวข้องกับการรับนักเรียน โดยเฉพาะสมาคมผู้ปกครอง ไม่มีหน้าที่เข้าไปนั่งในห้องรับสมัครนักเรียน แล้วให้ผู้ปกครองกรอกตัวเลขบริจาคเพื่อให้ลูกหลานได้เข้าเรียน ทั้งนี้ จะต้องไม่มีโควต้าฝากเด็กเข้าเรียนให้กับสมาคมผู้ปกครองนักเรียน คณะกรรมการสถานศึกษา สมาคมศิษย์เก่า และสมาคมอื่นๆ สิ่งเหล่านี้จะต้องไม่มีในโรงเรียนรัฐบาล เพราะเจตนารมณ์ของการจัดตั้งสมาคมเหล่านี้เพื่อช่วยระดมทุนให้แก่โรงเรียน ไม่ใช่เพื่อรับนักเรียน"นายชิณวรณ์ กล่าวและว่า สำหรับการระดมทรัพยากรนั้นยังเปิดโอกาสให้โรงเรียนดังที่มีอัตราการแข่งขัน สูงระดมทรัพยากรได้ แต่ต้องอธิบายให้ผู้ปกครองเข้าใจในเรื่องการบริจาคด้วย คิดว่าสัดส่วนการรับบริจาคน่าจะประมาณ 70% ของนักเรียน โดยจะต้องไม่บังคับ
#7 | narong on December 22 2010 23:07:14
เพราะคิดง่ายๆแบบ ผอ.สตรีวิทยา 2 นั่นเองที่ทำให้นโยบายปลอดเด็กฝากไม่ประสบผลสำเร็จ เนื่องจากการลูบหน้าปะจมูกจะเป็นผลทำให้เกิดการฟ้องร้องกันขึ้นอย่างแน่นอน... ผอ.ต้องไปดูกฏหมายสิทธิให้ดีๆ รวมทั้งคำพิพากษาของ๋ศาลในเรื่องนี้ ไม่อย่างนั้น ผอ.อาจจะตกม้าตายตอนแก่ก็ได้นะครับ
#8 | narong on December 23 2010 02:26:47
และนี่คือนโยบายที่ชัดเจนของ รมว.ศธ.

"...อยากเห็นปีการศึกษา 2554 เป็นปีแห่งคุณภาพของสถานศึกษา คุณภาพของนักเรียน นักเรียนสามารถเรียนตามความสามารถของตัวเอง ไม่ใช่ความสามารถด้านอื่น หรือของผู้ปกครอง..."

ถ้ายังมีโควต้าผู้มีอุปการะคุณมันจะต่างไปจากการรับฝากเด็กทั่วไปอย่างไร... ผู้ปกครองที่มีลูกหลานเข้ากระบวนการแข่งขันก็มีสิทธิที่จะฟ้องร้องต่อศาลปกครองเช่นเดียวกัน... และเชื่อว่าต้องมีแน่นอน
Post Comment
Please Login to Post a Comment.
Events
<< March 2025 >>
Mo Tu We Th Fr Sa Su
          1 2
3 4 5 6 7 8 9
10 11 12 13 14 15 16
17 18 19 20 21 22 23
24 25 26 27 28 29 30
31            

No events.

BRR facebook
แบบวัดการรับรู้ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายนอก(EIT2)
เอกสาร/ข้อมูล

คู่มือระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน (คลิก)

คู่มือนักเรียน
ผู้ปกครองและครู ปีการศึกษา 2567(คลิก)


ใบลากิจ/ลาป่วย (คลิก)

เบญจมฯสาร ฉบับที่ 53 (คลิก)

แบบฟอร์มแผนการจัดการเรียนรู้(คลิก)


แบบฟอร์มงานการเงิน (คลิก)


รายงานการประเมินตนเอง (SAR) โรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์ ปีการศึกษา 2566 (คลิก)

เอกสารรายงานการประเมินคุณภาพภายนอกรอบสี่ (พ.ศ.2559-2563) ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ของโรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์ (คลิก)

ค้นหาภายในเว็บ BRR
บทความใน BRR
คำถามที่ถามบ่อย
Communicate
เบญจมราชรังสฤษฎิ์
โรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์
งานบุคลากร โรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์
งานสารสนเทศ โรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์
งานอาคารสถานที่ โรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์
งานกิจกรรมชุมนุม โรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์
การประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงาน (ITA)
กลุ่มสาระฯวิทยาศาสตร์
กลุ่มสาระคณิตศาสตร์
กลุ่มสาระฯศิลปะ
กลุ่มสาระสังคมศึกษาฯ
กลุ่มสาระภาษาไทย
กลุ่มสาระย่อยฯคอมพิวเตอร์
IEP
งานแนะแนว โรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์
เพจสภานักเรียน
To be number one brr
กองร้อยพิเศษเบญจมราชรังสฤษฏิ์
นักศึกษาวิชาทหาร โรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์
ห้องเรียนสีเขียว โรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์
AV BEN Studio
TYC ตลาดบ้านใหม่
TYC ตลาดบ้านสุขสำราญ

OK-Blog ครูณรงค์

จังหวัดฉะเชิงเทรา
Web Site in BRR
เว็บไซต์ดั้งเดิม 2550

ALUMNA WEB
เฟซบุ๊คสมาคมศิษย์เก่า
เผยแพร่งาน

เอกสารครูพิมพ์วดี จันทรโกศล(ชุดฝึกทักษะปฏิบัติรำโทน)
เอกสารครูพิมพ์วดี จันทรโกศล(นาฏศิลป์)
เอกสารครูอัมพวรรณ์ เพียรพิจิตร(ชีววิทยา)
เอกสารครูพิมพ์วดี จันทรโกศล(นาฏศิลป์)
เอกสารครูอัจฉรัตน์ ยืนนาน(เคมี)
เอกสารครูสุริยา ช้างพลายแก้ว(สังคมศึกษา)
เอกสารครูฉัตรฐพร ศิริวัน(เคมี)
เอกสารครูรัชดาวรรณ์ จริยาวัตรโสภณ(ระบบนิเวศ)
เอกสารครูเพ็ญนภา ทองดี(วงจรไฟฟ้าเบื้องต้น)
เอกสารครูอดุลย์ วิริยาพันธ์(ภาษาไทย)
เว็บเรียนรู้
ศูนย์การเรียนชีววิทยา
บทเรียนออนไลน์​ เรื่อง​ เครื่องดนตรีไทยและวงดนตรีไทย​ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่​ 4​ จัดทำโดย​ ครูปพิชญา​ อ่อนสำลี​ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ
..:: L-AMANT by HaYaLeT Valid XHTML 1.0 TransitionalValid XHTML 1.0 Transitional December 22 2024 16:03:18