มีผู้ปกครองสอบถามมาที่ BRR NEWS ว่า

มีข่าวบอกต่อกันมาว่าจะต้องไปสมัครสอบไว้ที่โรงเรียนอื่นๆ เพื่อให้มีชื่อในโรงเรียนนั้น เผื่อว่าถ้าสอบที่เบญจมฯไม่ได้แล้วจะสามารถไปขอสอบรอบสองที่โรงเรียนที่ไปสมัครสอบไว้ได้... ใช่หรือไม่

คำตอบ .. ไม่ต้องไปถามใคร แต่ตอบด้วยสามัญสำนึกว่า ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะเมื่อนักเรียนสอบเข้าที่เบญจมฯไม่ได้ก็จะมีหน่วยงานที่รับผิดชอบคือ สพท.ฉช.เขต1 หรือ 2 เป็นผู้รับผิดชอบในการจัดหาโรงเรียนให้กับนักเรียนในเขตฯได้เรียน ดังนั้น เมื่อสอบเข้าที่เบญจมฯไม่ได้ ก็จะต้องไปติดต่อกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาที่ท่านมีภูมิลำเนา เพื่อแสดงตนว่าบุตรหลานยังไม่มีที่เรียน ซึ่งทางเขตพื้นที่จะได้ดำเนินการจัดการให้บุตรหลานของท่านได้เรียนในโรงเรียนใกล้บ้าน หรือโรงเรียนที่ยังสามารถรับนักเรียนเข้าเรียนได้ต่อไป

สำหรับที่เบญจมฯ นั้น ผู้ปกครองทั้งหมดต้องการให้เป็นมาตรฐานเดียว นั่นคือไม่มีระบบรับฝากเด็กเข้าเรียน และโรงเรียนเบญจมฯก็สามารถทำมาตรฐานในเรื่องนี้ผ่านมาแล้ว 3 ปี และปีนี้เป็นปีที่ 4 ที่โรงเรียนสามารถจำกัดจำนวนนักเรียนในชั้นไม่เกิน 45 คน และไม่มีระบบฝาก จนเป็นที่แปลกใจของเพื่อนโรงเรียนขนาดใหญ่ในจังหวัดอื่นๆ

จึงต้องขอขอบพระคุณผู้ปกครองนักเรียนทุกคน และผู้หลักผู้ใหญ่ของเมืองแปดริ้วที่เข้าใจในจุดประสงค์ที่โรงเรียนต้องทำมาตรฐานนี้และให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ทั้งนี้มิใช่อื่นใดก็เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาลูกหลานของคนแปดริ้วให้ทัดเทียมกับโรงเรียนชื่อดังของประเทศ แม้จะมีข้อจำกัดหลายๆด้าน โรงเรียนก็ยังพยายามที่จะพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นไป

ดังนั้นผู้ปกครองที่พาบุตรหลานของท่านมาสมัครเข้าเรียนปีนี้น่าจะสบายใจได้ว่าท่านจะได้รับความยุติธรรมอย่างเต็มที่ โดยประเมินจากความสามารถของลูกหลานท่านล้วนๆ โดยไม่มีใครใช้อภิสิทธิ์มาทำลายมาตรฐานนี้ลงไปได้

สถิตินักเรียนสมัครสอบ

ม.1 นอกเขตพื้นที่บริการ(ทั่วไป) จำนวน 660 คน

ม.1 ในเขตพื้นที่บริการ จำนวน 256 คน

ม.4 ทั่วไป จำนวน 491 คน

เตรียมสอบกันให้เต็มที่นะครับ

ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้การรับสมัครเรียน ม.1 ม.4 ในปีนี้ ผ่านไปอย่างเรียบร้อยรวดเร็ว คือการนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาช่วยในการออกเลขที่ที่นั่งสอบ และเก็บข้อมูลผู้สมัครไว้ในระบบ เพื่อนำไปรายงานผลการสอบอีกครั้งหนึ่งหลังจากที่การสอบเสร็จสิ้นลงแล้ว ถือเป็นโชคดีของโรงเรียนเบญจมฯ ที่มีบุคลากรที่มีความสามารถในการพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เพื่อใช้ประโยชน์ในองค์กรโดยไม่ต้องจัดซื้อโปรแกรมที่แสนแพง เป็นการประหยัดงบประมาณของโรงเรียนไปได้ส่วนหนึ่ง

โปรแกรมที่นำมาใช้ในครั้งนี้ต้องยกให้เป็นเครดิตของครูบรรจบ ธุปพงษ์ ที่พัฒนาโปรแกรมกรอกข้อมูลใบสมัครออนไลน์ เพื่อนำมาสมัครสอบตามวันรับสมัคร ทำให้การรับสมัครลื่นไหลไปอย่างคล่องตัวไม่ล่าช้า แม้ว่าอาจจะมีปัญหาเรื่องการกรอกข้อมูลที่ผิดพลาดของผู้สมัครสอบเองบ้าง แต่ก็สามารถแก้ปัญหาไปได้อย่างรวดเร็ว โปรแกรมนี้ถูกใช้และปรับปรุงพัฒนาข้อบกพร่องมาแล้วเป็นเวลา 4 ปี จนอาจกล่าวได้ว่าเป็นโปรแกรมที่สมบูรณ์โปรแกรมหนึ่ง ดังนั้นโรงเรียนใดประสงค์นำไปใช้ก็สามารถติดต่อได้ที่ครูบรรจบ ธุปพงษ์ ได้โดยตรงนะครับ